Skip to main content

Needle biopsy experience

Needle Biopsy Equipment
เมื่ออายุมากขึ้น การตรวจร่างก็ complicate และมีมากรายการมากขึ้น สิ่งนึงที่เพิ่มมาคือการทำ mammogram & breast ultrasound เมื่อปีที่แล้ว (2019) เมื่อตอนไปตรวจ คุณหมอ recommend ให้ทำ breast ultrasound ซ้ำ ครั้งนี้ คุณหมอพบว่ามี hypoechoic nodules อยู่ และมีขนาดที่โตขึ้นกว่าเดิม เป็นที่มาของการ perscribe ให้ทำ biopsy ซึ่งพ่อก็ช่วยไป consult อาจารย์หมอที่พระมงกุฎ และนัดให้ทำ needle biopsy และเป็นที่มาของการเล่าเรื่องครั้งนี้ (การเล่านี้เล่าจากคนที่ไม่มี medical experience นอกจากการ TA วิชา medical packaging ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย จึงไม่ได้มีหลักวิชาการเท่าไหร่นัก เน้นการเล่าความ จดบันทึก และ reflection ในเรื่องที่ได้เรียนรู้)

Needle biopsy เป็น OPD procedure ที่ทำเสร็จแล้วก็กลับบ้านได้ สิ่งที่ต้องเตรียมไปคือ ใส่เสื้อคนละชิ้นกับกางเกงเพื่อเปลี่ยนเฉพาะเสื้อและลุกนั่งง่าย และเตรียมใจว่า needle มันไม่ใช่เข็มแบบที่ใช้เจาะเลือดมันใหญ่กว่านั้น 

ในการทำเนื่องจากอาจารย์หมอไม่ได้เป็นคนทำ ultrasound มาเอง จึงต้องเริ่มจากการทำ ultrasound ที่ location of interest ก่อน จากนั้นจึงส่งไปทำ mammogram ตอนที่ทำ ultrasound มีโอกาสได้คุยกับอาจารย์หมอสั้น ๆ ว่ามันดูอย่างไร เพราะเห็นพวกนี้แล้วมันก็ดูเหมือน ๆ กันไปหมด อาจารย์ได้อธิบายว่ามันดูที่สี ปกติแล้วถุงน้ำจะสีดำสนิท ส่วนอันที่ไม่ดำสนิทก็จะต้องมาดูรายละเอียดกันอีกที อีกอย่างที่ดูได้คือความเรียบของสิ่งที่พบ ปกติแล้วถุงน้ำจะมีลักษณะเรียบ แต่ถ้ามีลักษณะเป็น cauliflower-like หรือ jagged edge ก็จะต้อง investigate เพิ่มเติม (Surprisingly, the term "cauliflower" has been used to described soooo many things - usually not very nice condition. Personally, I think we should do that to a plant!) 

ในส่วนของการทำ mammogram อาจารย์หมอเอา sharpie ทำ marking ไว้ให้ technician ดูว่าอยากได้ภาพที่ location ไหน ตอนก่อนทำ technician บอกว่าขอติดเทปหน่อยนะคะ แล้วก็เอาเทปมาแปะไว้ตามที่บอก (ทำให้เกิดความสงสัยว่าเทปมันทำอะไรกับ mammogram) เมื่อทำเสร็จจึงได้ยิน technician บอกว่าเอาแม๊กออกได้ค่ะ ก็ยังคิดว่าเค้าคงพูดสลับกับเทปหล่ะมั้ง เมื่อเอาออกมา จึงเห็นแม๊กตัวเล็ก ๆ ติดอยู่บนเทปจริง ๆ ถึงได้เข้าใจว่าเค้าเอาไว้ mark ตำแหน่ง เรื่องนี้ทำให้เรียนรู้ 2 เรื่องคือ 1. system ของการสื่อสารอย่างเป็นระบบเพื่อบอกตำแหน่งของสิ่งที่อยู่ข้างในอย่างเป็นระบบ และ 2. จิตวิทยาของการ communicate ของ technician เพราะถ้าเค้าบอกตอนแรกว่าขอติดแม๊กหน่อย คงจะตกใจไม่ใช่น้อยเลยทีเดียวว่าจะต้องเอาแม๊กมายิงกับตัวรึเปล่า

เมื่อได้รูปเรียบร้อยชัดเจน อาจารย์หมอก็เริ่มดูคร่าว ๆ ว่าเลือดไปเลี้ยงบริเวณ nodules รึเปล่า (ไม่ได้บอกชัดเจนว่าเป็น indication ของอะไร)  จากนั้นจึงเริ่ม procedure ของ needle biopsy นี่เป็นช่วงเวลาที่ได้เห็นเครื่องมือและได้รับคำเตือนจากอาจารย์หมอว่ามันจะมีเสียงดังนิดนึงนะคะเวลาทำ จึงเป็นช่วงที่ได้ตระหนักว่ามันไม่ใช่เข็มเล็ก ๆ นิหน่า แต่ ณ จุดนั้นมีเวลาทำใจสั้นมาก ๆ ได้แต่ยิ้มรับแล้วบอกว่า "ค่ะ"

กระบวนการเริ่มจากการฉีดยาชา 💉💉 2 steps น่าจะเพื่อให้ครอบคลุมทั่วบริเวณที่เข็มจะเข้าไป แล้วจึงเริ่มกระบวนการ ซึ่งไม่กล้าหันไปดูตั้งแต่ฉีดยาชา และไม่รู้สึกว่าทำอะไรเพราะฤทธิ์ของยาชา ตอนนี้ rely on คำพูดหมออย่างเดียว ว่ามีการกรีดเล็ก ๆ เพื่อเอาเข็มเข้าไป จากนั้นตอนที่รู้อีกทีคือตอนอาจารย์หมอนับ 1 2 3 และได้ยินเสียงเหมือนปืนเจาะหู แต่ดังกว่านิดนึง และรู้สึกถึงแรงกระแทกนิดหน่อย คุณหมอเก็บไปทั้งหมด 4 ครั้ง แต่ละครั้งได้ออกมาเป็นเหมือนลูกปัดเล็ก ๆ ขนาดเกือบ 3-4 mm สีออกส้ม ๆ เมื่อได้มาก็จะใส่ลงไปใน vial ที่มี solution อยู่  อาจารย์หมอบอกว่าเมื่อเอาตัวอย่างออกมาแล้วขนาดของ nodules ก็ดูเล็กลง ฟังดูเหมือนว่าจะเป็น sign ที่ดี และตัดสินใจว่าจะตัดออกจนหมดเลยไม๊ แต่ตัดสินใจว่าจะไม่ตัดออกหมด เผื่อไว้เป็น marker จึงเป็นอันว่าเสร็จสิ้นกระบวนการ เมื่อทำแผลเสร็จก็ให้ประคบเย็นประมาณ 30 นาที 

คำแนะนำสำหรับหลังการทำ needle biopsy (อาจจะเป็น location specific จึงไม่ได้ apply กับทุก case) คือ อย่ายกของหนัก ไม่แกว่งแขน และออกกำลังในช่วง 2-3 วันแรก (ในบางครั้งการที่แผลไม่แห้ง/ปิดสนิทดี ก็มาจากการใช้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นมากเกินไป) การประคบเย็นสามารถทำได้ทั้งวัน และจะช่วยให้หายเร็วขึ้น หลังจาก 48+ ชั่วโมง สามารถเอาที่ปิดแผลออกได้ ถ้าแผลไม่แห้งดี ให้ใช้  betadine ทา แล้วตามด้วย alcohol แล้วปิดแผลไปอย่างเดิม ถ้าใช้ band-aid แบบกันน้ำได้ก็จะสามารถอาบน้ำได้ปกติถึงแผลจะยังไม่แห้ง

การทำครั้งนี้นับว่าไม่ได้เจ็บอยู่นานมาก พอให้ได้รู้สึกนิดหน่อย เลยไม่ได้ทานยา เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจไม่ให้ใช้แขนข้างนั้นทำอะไรมากนัก พอวันรุ่งขึ้นอาการปวดก็น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด และทราบว่าผลตรวจคือ no evidence of cancer ซึ่งก็นับเป็นเรื่องโชคดีมาก เหลืออีกเพียงเรื่องเดียวคือการแกะที่ปิดแผลออก และดูว่าแผลแห้งสนิทดี 

💙ขอบคุณแม่ที่ insist ว่าต้องไปด้วยกัน และไปด้วยแต่เช้า พาไปจัดการและช่วยเหลือทุกอย่างทั้ง ๆ 💙ขอบคุณพ่อที่ช่วยเป็นธุระตั้งแต่นัดให้จนถึงช่วยฟังผลมาให้ เมื่อพ่อตรวจคนไข้เสร็จเช้านั้น ก็มานั่งรออยู่เป็นเพื่อนแม่ 💙ขอบคุณเขมที่ส่ง message มาถามว่าเป็นยังไงบ้าง และ 💙ขอบคุณขิมที่บอกว่าเราต้องไปนอนกับแม่ in case you need something เมื่อถามไปว่าถ้าแม่ต้องการให้ช่วยอะไรตอนที่ลูกหลับไปแล้วแม่คงปลุกใครให้ขึ้นมาช่วยได้ยาก ขิมถึงกับนั่งวางแผนการนอนว่าจะต้องนอนกี่โมง หรือตื่นขึ้นมาตอนไหน เพื่อให้มาช่วยเหลือแม่ได้

📙Note เพิ่มเติมหลังเปิดผ้าปิดแผล แผลเล็กนิดเดียวและแห้งได้ดี แต่ยังมีรอยช้ำและไตแข็ง ๆ ซึ่งน่าจะมาจากกระประคบเย็นไม่เพียงพอในวันแรก เพราะหลังจากที่ประคบที่โรงพยาบาลก็มานึกได้อีกทีว่าควรประคบเย็นเพิ่มตอนกำลังจะเข้านอน จึงประคบเพิ่มอีกครั้งเดียว การประคบเย็นนี่ The more the merrier จริง ๆ ตอนแรกไม่เข้าใจว่ามันสำคัญยังไง พอได้มี experience ก็ทำให้เราเรียนรู้ The why และรู้ว่าจะต้องทำอย่างจริงจังกว่านี้

Picture credited to: https://poliklinikahuman.rs/en/breast-core-biopsy-core-needle-biopsy/






Comments